Page 39 - DaraSuptarTV Issue 21 Monthly May 2022
P. 39

เมื่อได้ทราบข่าวว่าพระอรหันต์ทั้ง                                  กัสสปะระลึกถึงค�าสั่งพระพุทธเจ้าให้น�าพระ
      หลายอัญเชิญพระบรมธาตุมาบรรจุที่ภูก�าพร้า                                  อุรังคธาตุมาบรรจุไว้ที่ภูก�าพร้าแต่มิได้สั่งให้
      ก็มีความโสมนัสยินดี ได้ยกก�าลังโยธามาคอย                                  ฐาปนาไว้ชะรอยจะเล็งเห็นด้วยพระญาณว่า
      ต้อนรับอยู่ ณ ภูก�าพร้า คือพญานันทเสน เมือง                               ต่อไปภายหน้าจะมีผู้เป็นเชื้อหน่ออรหันต์มาส
      ศรีโคตรบูร ยกก�าลังมาปลูกพลับพลาไว้รับกษัตริย์                            ถาปนาให้บริบูรณ์ต่อไปจึงกล่าวว่าพวกเราอยู่
      เมืองต่างๆ ตามริมโขง (ขลนที) พญาจุลณีพรหมทัต                              ได้ฐาปนาไว้ตามพุทธประสงค์นั้นเทอญ
      และพญาอินทปัตถนครเมื่อมาพร้อมกันแล้ว ก็                                          ขณะนั้นพระอุรังคธาตุก็เสด็จกลับ
      ให้ไพร่พลโยธาของตนสกัดหินมุกด์หินทรายไว้                                  เข้าไปสู่ที่เก่า ผ้ากัมพลก็คลายออกห่อหุ้มไว้
      คอยท่าส่วนพญาค�าแดงเมืองหนองหารน้อย                                       ดังเดิม พญาสุวรรณภิงคารเห็นอัศจรรย์ดังนั้น
      ผู้เป็นพระอนุชาพญาสุวรรณภิงคารได้ทราบก็                                   ก็ขนพองสยองเกล้าสะดุ้งพระทัยยิ่งนักพญา
      ยกโยธามาสมทบกับเมืองหนองหารหลวงพญา มงคลแก่โลก ผู้ใดก่อด้านใดก็ให้ตักเอาน�้าในไห ทั้ง 5 ให้สร้างประตูไม้ประดู่ปิดไว้ทั้ง 4 ด้านแล้ว
                                           ด้านนั้นก่อนขึ้นไปตามด้านที่ตนก่อ ดังนี้ พญา ให้คนไปน�าเอาเสาศิลาจากเมืองกุสินารา 1 ต้น
                                           จุลณีพรหมทัต ก่อด้านตะวันออก พญาอินทปัต ฝังไว้มุมเหนือตะวันออก แปลงรูปอัศมุขีไว้ที่โคน
                                           ถนคร ก่อด้านใต้ พญาค�าแดง เมืองหนองหาร
                                           น้อย ก่อด้านตะวันตก พญานันทเสนเมืองศรีโคตร
                                           บูรก่อด้านเหนือเมื่อพญาทั้ง 4 ก่อขึ้นเป็นรูปเตา 4
                                           เหลี่ยมสูงได้ 1 วาของพระมหากัสสปะแล้วพักไว้
                                           พญาสุวรรณภิงคารก่อขึ้นรวบยอดเข้าเป็นรูปฝา
                                           ปารมีสูงอีก 1 วาของพระมหากัสสปะ จึงรวมเป็น
                                           2 วาของพระมหากัสสปะ แล้วท�าประตูเผาไฟทั้ง
                                           4 ด้าน เอาไม้จวง จันทน์ กฤษณา กระล�าพัก ไม้
      สุวรรณภิงคารให้พราหมณ์แต่งตัวนุ่งห่มด้วย คันธรส ชมพูนิโครธ และไม้รัง มาเป็นฟืน เผา
      เครื่องขาว 8 คน เป็นผู้อัญเชิญพระอุรังคธาตุแห่ 3 วัน 3 คืน สุกดีแล้วจึงเอาหินหมากคอมกลาง
      ด้วยยศบริวารมาสู่ภูก�าพร้า พร้อมด้วยพระอรหันต์ โคกมาถมหลุม (เข้าใจว่าเป็นกรวดหรือแฮ่)
      500องค์มีพระมหากัสสปะเป็นประธานเมื่อพญา ท้าวพญาทั้ง 5 เมื่อสร้างอุโมงค์เสร็จแล้วต่างก็บริจาค
      ทั้ง5มาถึงภูก�าพร้า และตั้งทัพพักพลอยู่ตามที่ ของมีค่าบรรจุไว้ภายในอุโมงค์เป็นพุทธบูชา
      เหมาะสมแก่อัธยาศัยแล้วจึงประชุมปรึกษากัน อาทิ เงินแท่ง ฆ้อง ปลอกทองค�าหล่อเป็นรูปเรือ
      ว่าจะท�าอย่างไรดีพญาสุวรรณภิงคารได้ปรารภ กระโถนทองค�าบรรจุแหวนใส่เต็ม มงกุฎแก้ว
      ขึ้นว่าให้ไปขนเอาหินในเมืองหนองหารหลวงที่ มรกต ปิ่นทองค�า พานทองค�า หินมุกด์ท�าเป็น
      ก่ออุโมงค์ค้างไว้นั้นมาก่อจะเร็วดี พระมหากัสส หีบใส่ของ ขันทองค�าใส่แหวนเต็ม ขันเงินบรรจุ
                                           ปิ่นทองค�าเต็ม ก�าไลมือ มงกุฎทองค�า สังวาลย์
                                           ทองค�า โอทองค�า โอเงิน และโอนากเมื่อพญา
                                           ทั้ง 5 บริจาคของบูชาเสร็จแล้ว พระมหากัสสปะ เพื่อเป็นหลักชัยมงคลแก่บ้านเมือง ให้ไปน�าเอา
                                           เป็นประธานพร้อมกันอัญเชิญพระอุรังคธาตุเข้า มาแต่เมืองพาราณสี 1 ต้น ฝังไว้มุมใต้ตะวันออก
                                           บรรจุไว้ภายในที่อันสมควรแล้วให้ ปิดประตูไว้ แปลงรูปอัศมุขีไว้โคนต้น เพื่อหมายมงคลแก่โลก
                                           ทั้ง 4 ด้านขณะนั้นพระบรมธาตุก็คลี่คลายผ้ากัมพล ไปน�าเสาศิลาจากลังกา 1 ต้นฝังไว้มุมใต้ตะวันตก
                                           ที่ห่อหุ้มเสด็จออกมาประดิษฐานอยู่บนฝ่ามือของ ให้ไปน�ามาแต่เมืองตักกศิลา1ต้นฝังไว้มุมเหนือ
                                           พระมหากัสสปะเป็นที่น่าอัศจรรย์ท้าวพญา ตะวันตกพญาสุวรรณภิงคารให้สร้างรูปม้า
                                           และประชาราษฏรทั้งหลายเห็นอัศจรรย์ดังนั้น อาชาไนยไว้ตัวหนึ่งผินหน้าไปทางทิศเหนือ
                                           ก็เปล่งเสียงสาธุการอึงคะนึงไปทั่วภูก�าพร้าพระมหา เพื่อแสดงว่าพระบรมธาตุเสด็จออกมาทางทิศ
      ปะทักท้วงว่าหินฝูงนั้นก่อครั้งก่อนร้างเสียไม่                             นั้น และพระพุทธศาสนาจะเจริญรุ่งเรืองจาก
      เป็นมงคลพวกเราควรปั้นดินดิบก่อแล้วสุมด้วย                                 เหนือมาใต้พระมหากัสสปะให้สร้างม้าวลาหก
      ไฟก็จะมั่นคงเป็นสิริมงคลสืบไปภายหน้าที่                                   ไว้ตัวหนึ่งเป็นคู่กันให้ผินหน้าไปทางทิศเหนือ
      ประชุมจึงตกลงให้เสนาอ�ามาตย์ปั้นดินก่อตาม                                 เพื่อเป็นปริศนาว่าพญาศรีโคตรบูรจักได้สถาปนา
      ค�าพระเถระนั้น แบบพิมพ์ดินกว้างยาวเอาฝ่ามือ                               พระอุรังคธาตุไว้ตราบเท่า 5,000 พระวัสสาพระ
      พระมหากัสสปะเป็นแบบ ครั้นปั้นดินเสร็จแล้ว                                 พุทธศาสนาเกิดทางใต้แล้วขึ้นไปทางเหนือม้า
      ก็พากันขุดหลุมกว้าง 2 วา ลึก 2 ศอก ของพระมหา                              ศิลาสองตัวนี้สร้างไว้เพื่อให้ปราชญ์ผู้มีปัญญา
      กัสสปะเท่ากันทั้ง 4 ด้าน พญาสุวรรณภิงคารเริ่ม                             ได้พิจารณาจักรู้แจ้งในปริศนานั้นแล
      ขุดก่อนเป็นปฐมฤกษ์เวียนประทักษิณจากด้าน                                          คอลัมน์นาคาวาไรตี้ หวังเป็นอย่างยิ่ง
      ตะวันออกไป และพญาทั้งหลายก็ขุดตามล�าดับ                                   ว่าผู้ติดตามจะได้รับข้อมูล ข่าวสาร สาระและ
      จนเรียบร้อยเป็นอันดีพระอรหันต์ทั้งหลายให้                                 บันเทิง ได้อย่างสะดวก และรวดเร็ว ขอขอบคุณ
      คนทั้งหลายตั้งไหน�้าไว้ทั้ง 4 ด้าน สวดด้วยราหู                            ข้อมูลจาก https://www.matichonacademy.
      ปริตร และคาถา “พุทธส มงคล โลเก” เพื่อเป็น                                 com
                                                                                                        ด�ร�ซุปต�ร์ทีวี  39
   34   35   36   37   38   39   40   41   42   43   44